ข่าวดีสำหรับผู้ใช้งาน Affinity 2 กับอัปเดตใหม่ล่าสุด Affinity 2.2 ที่นำเสนอฟีเจอร์ใหม่บนทุกแอป และทุกแพลตฟอร์ม โดยสรุปข้อมูลการอัปเดตมาได้ดังนี้
1. คุณสามารถเพิ่มการเชื่อมโยงข้อมูลอ้างอิงได้ใน Affinity Publisher
โดยคุณลักษณะใหม่ในการเชื่อมโยงแหล่งข้อมูลอ้างใน Affinity 2.2 ช่วยให้ผู้อ่านเห็นข้อมูลอ้างอิงจากส่วนใด ส่วนหนึ่งของเอกสาร ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเขียนเชิงวิพากษ์วิจารณ์ ที่ช่วยให้การค้นหาข้อมูลอ้างอิงของผู้อ่าน เป็นไปได้ง่ายขึ้น และรวดเร็ว โดยสามารถดูการ Cross References บน Affinity 2.2
ได้จากวิดีโอสาธิตด้านล่างนี้
2. เพิ่มการรองรับ OpenColorIO V2 (OCIO v2) ให้กับรูปภาพ
API OCIO v2 ถูกเพิ่มให้กับ Affinity Photo โซลูลั่นนี้จะช่วยจัดการกับสีของภาพ ให้ดูสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยพลังของการเรนเดอร์ที่สร้างสีได้แม่นยำ สามารถปรับแต่งปริภูมิสีสำหรับสร้างเอาต์พุตต่างได้ดียิ่งขึ้น โดยทำงานร่วมกันกับ CPU และ GPU ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น Desktop Application หรือบน IPad ก็สามารถใช้งาน OCIO v2 ได้แล้วเช่นกัน สามารถเรียนรู้การตั้งค่า OCIO v2 ใน Affinity Photo ได้จากวิดีโอด้านล่างนี้
3. คุณสามารถเพิ่มตัวแปรข้อความ แบบกำหนดเองได้ใน Affinity Publisher
Affinity Publisher ในเวอร์ชั่น 2.2 มีความสามารถในการกำหนดตัวแปรข้อความ ที่สามารถกำหนดเองเป็นฟิลด์ได้ ซึ่งจะทำให้การอัปเดตฟิลด์ทั่วทั้งเอกสาร จากการกำหนดค่าไว้นั้น ทำได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับทุกแพลตฟอร์มการใช้งาน อัปเดตฟิลด์จากที่ไหนก็ได้ ง่ายๆ รวดเร็ว
4. ใหม่ตัวเลือกการป้อนข้อมูล พร้อมให้ใช้งานใน Affinity Designer
การป้อนข้อมูลสำหรับการสร้างวัตถุ
เมื่อทำงานบน Desktop Application ขณะนี้เราสามารถระบุขนาดของรูปร่างวัตถุใน เครื่องมือรูปทรง เครื่องมืออาร์ตบอร์ด เครื่องมือกรอบรูป ที่สร้างขึ้นได้ โดยวัตถุจะถูกสร้างจากตำแหน่งที่คลิก และแสดงตัวเลือกการจัดวางตำแหน่งวัตถุที่เกี่ยวข้องกับมุม ด้านข้าง หรือจุดศูนย์กลางของรูปร่างวัตถุ
การป้อนข้อมูลสำหรับการย้าย และการทำซ้ำ
เมื่ออยู่ในเครื่องมือ Move/Duplicate การกด Return หรือ Enter จะแสดงกล่องตอบโต้สำหรับการป้อนข้อมูลขนาดและ ระยะการย้ายที่แม่นยำ โดยสามารถระบุจำนวนสำเนาที่ต้องการได้ คุณสามารถเรียนรู้คุณสมบัติการป้อนข้อมูลสำหรับการย้าย และการทำซ้ำได้จากวิดีโอด้านล่างนี้
5. เรายังได้ปรับปรุงขั้นตอนการทำงานอื่นๆ อีกมากมาย
ทีมผู้พัฒนาพยายามอย่างต่อเนื่อง ที่จะประสิทธิภาพกระบวนการสร้างให้กับผู้ใช้งาน โดยทำการปรับปรุง และเพิ่มเติมคุณสมบัติและเครื่องมือของ Affinity ในการอัปเดตแต่ละครั้ง มาดูกันว่าอัพเกรดที่จะได้รับใน Affinity 2.2 มีอะไรบ้าง
การกดคีย์ลัดค้างไว้เพื่อใช้งานคำสั่ง
การกดทางลัดเครื่องมือใด ๆ ค้างไว้จะทำให้คุณเข้าไปในเครื่องมือนั้นชั่วคราว จนกว่าคุณจะปล่อยปุ่มทางลัด เมื่อถึงจุดนี้ คุณจะกลับสู่เครื่องมือก่อนหน้าของคุณ ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณใช้เครื่องมือ Pen คุณสามารถกด V ค้างไว้ เพื่อเปลี่ยนเป็น Move Tool เพื่อย้ายเส้นโค้ง จากนั้นเมื่อปล่อยมือ จะกลับสู่ Pen Tool ทันที อีกตัวอย่างที่มีประโยชน์ คือเมื่ออยู่ใน Brush Tool คุณสามารถกด E ค้างไว้ เพื่อใส่ Eraser แล้วปล่อย เพื่อสลับกลับไปเป็นเครื่องมือ Brush
เปลี่ยนไกด์สี
ขณะนี้มีตัวเลือกในตัวจัดการคำแนะนำ ในการเปลี่ยนสี คำแนะนำของคุณ บนเดสก์ท็อป คุณสามารถตั้งค่านี้ ได้โดยไปที่ตัวจัดการคำแนะนำ (View -> Guides… หรือดับเบิลคลิก ที่คำแนะนำใดก็ได้) และค้นหาการตั้งค่าสี ที่ด้านซ้ายล่างของกล่องโต้ตอบ
'ซ่อนเอฟเฟกต์' และโหมดมุมมองระดับสีเทา
ใน Affinity Designer และ Affinity Publisher คุณสามารถเลือกสลับมุมมอง เพื่อซ่อนเอฟเฟกต์เลเยอร์ทั้งหมด หรือเปลี่ยนให้เป็นเฉดสีเทาได้ ความสามารถในการซ่อนเอฟเฟกต์เลเยอร์ในลักษณะนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สร้างการออกแบบที่ซับซ้อนมาก ซึ่งมีเลเยอร์ และเอฟเฟกต์นับพัน การมีโหมดมุมมองที่สามารถปิดเอฟเฟกต์ได้ ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในขณะที่คุณทำงานได้อย่างมาก
การสลับไปใช้โหมดเฉดสีเทา ยังมีประโยชน์ในการประเมินคอนทราสต์ และช่วงไดนามิก ได้ง่ายขึ้น
เพิ่มคีย์ลัดสำหรับเครื่องมือ Pixel Brush Tools
เพื่อการทำงานที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น เราได้เพิ่มแป้นพิมพ์ลัดเพิ่มเติมให้กับเครื่องมือแปรงแบบพิกเซลทั้งหมด (เช่น Paint Brush, Smudge, Sponge, Dodge, Burn ฯลฯ)
- ปุ่ม Shift + ตัวเลข จะเปลี่ยนเปอร์เซ็นต์การไหล (ในลักษณะเดียวกับที่ปุ่มตัวเลข จะปรับความทึบในตัวมันเอง)
- ตอนนี้ Shift + วงเล็บเหลี่ยม จะเปลี่ยนความแข็งเพิ่มขึ้นทีละ 10%
- ปุ่มตัวเลขใน Paint Mixer และ Smudge Brush ตอนนี้ปรับเปอร์เซ็นต์ Adjusts strength แล้ว
- ตอนนี้ตั้งค่าการเติมด้วยสีหลัก ด้วยทางลัดเริ่มต้นของ Alt/⌥ + Backspace
- ตอนนี้ตั้งค่าการเติมด้วยสีรอง ด้วยทางลัดเริ่มต้นของ Ctrl/⌘ + Backspace
รายการทางลัดแปรงหลักที่อัปเดต จะแสดงอยู่ด้านล่าง (รายการที่เน้นด้วยสีแดง คือส่วนเพิ่มเติมใหม่):
แป้นพิมพ์ลัดเพิ่มเติม สำหรับเครื่องมือแปรงพิกเซล
Action: Decrease/increase brush size
Windows: [ or ]
macOS & iPad: [ or ]
Action: Decrease/increase brush hardness in 10% increments
Windows: Shift + [ or ]
macOS & iPad: Shift + [ or ]
Action: Switch to Eyedropper tool
Windows: Alt drag
macOS & iPad: ⌥ drag
Action: Set opacity or strength
Windows: Number keys (e.g. 0=100%, 3=30%, 6 and 5 in quick succession=65%). For most brush tools this sets opacity, for smudge and paint mixer this sets strength
macOS & iPad: Number keys (e.g. 0=100%, 3=30%, 6 and 5 in quick succession=65%). For most brush tools this sets opacity, for smudge and paint mixer this sets strength
Action: Set flow
Windows :Shift + Number keys (with same logic as opacity above).
macOS & iPad: Shift + Number keys (with same logic as opacity above).
Action: Cycle through blending modes
Windows: Shift + + or -
macOS & iPad: Shift + + or -
Action: Set to specific blend mode
Windows: Shift + Alt + (associated letter for blend mode)
macOS & iPad: Shift + ⌥ + (associated letter for blend mode)
Action: Display Fill dialog box
Windows: Shift + F5
macOS & iPad: Shift + F5 (not available on iPad)
Action: Fill pixel layer / selection with Primary Color
Windows: Alt + Backspace
macOS & iPad: ⌥ + Backspace (not available on iPad)
Action: Fill pixel layer / selection with Secondary Color
Windows: Ctrl + Backspace
macOS & iPad: ⌘ + Backspace (not available on iPad)
Action: Draw straight line
Windows: Shift-click
macOS & iPad: Shift-click
Action: Switch brush cursor to cross hair
Windows: Caps Lock
macOS & iPad: Caps Lock (not available on iPad)
Action: Rotate brush nozzle
Windows: Left or Right arrow keys (+ Shift to accelerate)
macOS & iPad: Left or Right Arrow keys (+ Shift to accelerate)
Action: Select new brush without changing width
Windows: Alt-click new brush in brushes panel
macOS & iPad: ⌥-click new brush in brushes panel
Action: Select new brush ignoring any associated tool
Windows: Shift + Alt-click new brush in brushes panel
macOS & iPad: Shift + ⌥-click new brush in brushes panel
Action: Toggle between primary / secondary color
Windows: X
macOS & iPad: X (not available in iPad)
Action: Swap primary / secondary color
Windows: Shift + X
macOS & iPad: Shift + X (not available in iPad)
Action: Set primary / secondary color to black and white
Windows: D
macOS & iPad: D (not available in iPad)
Action: Indicate on screen drag of attributes
Windows: Ctrl + Alt. Click-drag to adjust, single click to cycle between Width / Hardness, Shape / Spacing and Rotation
macOS & iPad: Ctrl + ⌥. Click-drag to adjust, single click to cycle between Width / Hardness, Shape / Spacing and Rotation
ตัวเลือก 'เลือกทั้งหมดบนเลเยอร์ปัจจุบัน' พร้อมใช้งานแล้ว
จากเมนูเลือก คุณจะพบตัวเลือกใหม่ของ 'เลือกทั้งหมดบนเลเยอร์ปัจจุบัน' พร้อมด้วยทางลัดเริ่มต้นที่ Shift+ Ctrl+ A บน Windows และ Shift+ ⌘+ A บน macOS
นี่เป็นวิธีที่รวดเร็วในการบรรลุผลลัพธ์เดียวกัน โดยยกเลิกการเลือก 'แก้ไขเลเยอร์ทั้งหมด' ในแผงเลเยอร์ และทำการเลือกทั้งหมด ตัวอย่างที่ดีคือ หากคุณต้องการเลือกทุกอย่างบนอาร์ตบอร์ด คุณสามารถคลิกที่ป้ายกำกับอาร์ตบอร์ดแล้วกด Shift+ Ctrl / ⌘+A
เพิ่ม 'ลบโหนด' ในเมนูคลิกขวา
เมนูคลิกขวา ที่ใช้งานได้ เมื่ออยู่ใน Node Tool (หรือในขณะที่กด ⌘/ Ctrl ใน Pen Tool) ตอนนี้มีตัวเลือกเพิ่มเติม ในการลบโหนด ทั้งสองวิธีลบ (การลบแบบมาตรฐาน หรือการลบ 'พอดีเส้นโค้ง') มีอยู่ในเมนูนี้ ตัวเลือก 'Fit to Curve ' ให้ผลลัพธ์เช่นเดียวกับการกด Alt / ⌥+Delete
เพิ่มเลยอร์ใหม่ ได้ง่ายๆ ด้วยการกด Alt- คลิก หรือ ⌥ - คลิก
ในแผงเลเยอร์ หากคุณ Alt-คลิก 'เพิ่มเลเยอร์ใหม่' ( ⌥-คลิก บน macOS/iPad) เมื่อคุณมีตัวเลือก รายการทั้งหมดในส่วนที่เลือกนั้น จะถูกย้ายไปยังเลเยอร์ใหม่ที่สร้างขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง สิ่งนี้ทำงานเหมือนกับการจัดกลุ่ม แต่แทนที่จะสร้างกลุ่ม มันจะทำให้การเลือกของคุณอยู่ในเลเยอร์ใหม่
นอกจากนี้ สำหรับเวอร์ชันเดสก์ท็อป คุณจะพบตัวเลือกใหม่ ในเมนูคลิกขวาสำหรับ 'Move Selection to New Layer' ซึ่งบรรลุผลเช่นเดียวกัน วิธีนี้ทำให้จัดระเบียบงานของคุณเป็นเลเยอร์ ได้ง่ายขึ้นมาก โดยไม่ต้องสร้างเลเยอร์ว่างก่อน แล้วลากรายการที่คุณต้องการลงไป
เพิ่มตัวเลือก 'สร้างสัญลักษณ์' ลงในเมนูเลเยอร์ใน Affinity Designer
กำหนดคีย์ลัด * ด้วยตัวเลือก 'สร้างสัญลักษณ์' ซึ่งขณะนี้สามารถใช้งานได้จากเมนูเลเยอร์ใน Affinity Designer ในกรณีของเวอร์ชั่น iPad นี่ไม่ใช่รายการเมนู แต่สามารถตั้งเป็นทางลัดได้ คุณสามารถค้นหาได้ใน Settings -> Shortcuts -> Commands.
*ทางลัดเริ่มต้นเมื่ออยู่ใน Designer Persona คือ Ctrl+ Shift+ K (Windows) / ⌘+ Shift+ K (macOS และ iPad)
ก็จบไปสำหรับสรุปย่อการอัปเดต Affinity ใน 2.2 และสำหรับผู้อ่านที่สนใจในการอัปเดตนี้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://affinity.serif.com/en-us/whats-new/
และสำหรับผู้ใช้งานเก่าใน Affinity V1 สนใจจะอัพเกรดเป็น Affinity 2 และรวมถึงผู้ใช้งาน ที่ยังไม่มี Commercial License ของ Affinity 2 ก็สามารถติดต่อ 8Baht.com ได้ทุกช่องทาง เพื่อขอคำปรึกษาในการเลือกซื้อ หรือเลือกอัพเกรด Affinity Products ได้
🌐ช่องทางติดต่อ
✳️ www.8Baht.com
📞 02-744-9397 หรือ 097-060-8328
🟩 Line: ค้นหา @8Baht