Rhino เป็นแอปพลิเคชันแบบ Surface modeling application ที่มีกลไกเรขาคณิตรูปแบบอิสระที่รวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งยังรองรับ Mesh และ Point cloud อีกด้วย Rhino รองรับไฟล์มากกว่า 40 รูปแบบ ทำให้เป็นเครื่องมือการทำงานร่วมกันที่ยอดเยี่ยม มันง่ายต่อการเรียนรู้ ปรับแต่งได้มาก ขยายได้ และมีระบบนิเวศของบุคคลที่สามที่แข็งแกร่งมาก พร้อมด้วยส่วนเสริมมากกว่าพันรายการที่ให้ความสามารถเพิ่มเติมมากมาย ในวันนี้เรายินดีนำเสนอ Rhino.Inside.Revit คือเครื่องมือที่นำเสนอความสามารถในการผสมรวมระหว่างโลกของ Rhino และ Revit อย่างเต็มรูปแบบ เราพบว่าการใช้งานโปรแกรมซึ่งมีความเชี่ยวชาญในงานสร้างสรรค์เหล่านี้ในแต่ละโปรแกรมยังมีข้อจำกัด แต่ด้วย Rhino.Inside.Revit เราสามารถผสมรวมความสามารถของทั้งสองโลกเข้าด้วยกันอย่างไม่มีข้อจำกัด โดยเฉพาะในการทำงานกับโครงการสถาปัตยกรรมและงานออกแบบที่ซับซ้อน
ด้วยการใช้ Rhino.Inside.Revit นักออกแบบและวิศวกรมีสิทธิ์เข้าถึงเครื่องมือและความสามารถของ Rhino ภายในสภาพแวดล้อมของ Revit โดยตรง ซึ่งเปิดโอกาสให้สร้างงานที่น่าทึ่งและสร้างสรรค์ได้โดยไม่มีข้อจำกัด ผู้ใช้สามารถนำไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ของตนเข้าไปในโครงการได้อย่างอิสระ ทั้งนี้ยังมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานร่วมกับทีมและการแบ่งปันข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
ในบทนี้เราจะสำรวจคุณสมบัติและประโยชน์ของ Rhino.Inside.Revit เพื่อให้คุณเข้าใจว่าทำไมควรใช้เครื่องมือนี้ในการงานออกแบบและพัฒนาโครงการของคุณ
คุณสมบัติหลักของ Rhino.Inside.Revit:
การนำเข้า Rhino และ Grasshopper ใน Revit: Rhino.Inside.Revit ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Rhino และ Grasshopper ใน Revit ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมในหน้าต่างแยกต่างหาก ผู้ใช้สามารถใช้งานทั้งสองเครื่องมือพร้อมกันและแชร์ข้อมูลระหว่างพื้นที่ทำงานของทั้งสองโปรแกรมได้
ความสามารถของ Grasshopper ใน Revit: การนำ Grasshopper เข้ามาใน Rhino.Inside.Revit มาพร้อมกับคอมโพเนนต์ใหม่ที่ช่วยในการติดต่อกับ Revit และให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง API ของ Revit ได้ ผู้ใช้สามารถสร้างสคริปต์ที่ทำงานร่วมกับ Revit และ Grasshopper ได้
การเชื่อมต่อระหว่าง Rhino และ Revit: Rhino.Inside.Revit ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างการออกแบบที่ยืดหยุ่นและสมดุลระหว่าง Rhino และ Revit ได้ โดยการใช้งานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้ Rhino ในการสร้างโมเดล: ผู้ใช้สามารถใช้ Rhino ในการสร้างโมเดล เช่นโมเดลทิศทางที่เกี่ยวข้องกับงาน Landscape และนำมาใช้งานในโครงการ BIM ใน Revit
ประโยชน์ของการใช้ Rhino.Inside.Revit:
เพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบ: การนำเข้าและแก้ไขโมเดล 3 มิติโดยใช้ Rhino ภายใน Revit ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบ ผู้ใช้สามารถนำเข้าโมเดลจาก Rhino และแก้ไขโมเดลได้โดยตรงภายใน Revit โดยไม่ต้องสลับโปรแกรม
การสร้างแบบที่ออกแบบด้วยเครื่องมือแบบอิสระ: ผู้ใช้สามารถใช้ Rhino เพื่อสร้างแบบที่ซับซ้อนโดยใช้เครื่องมือ Freeform และนำมาใช้ในโครงการของคุณใน Revit
การจัดการกับพื้นผิว: ผู้ใช้สามารถใช้ Rhino เพื่อสร้างและจัดการกับพื้นผิว และนำมาใช้ในการออกแบบและจัดการโครงสร้างของอาคาร
ความสะดวกสบาย: การใช้ Rhino.Inside.Revit ช่วยลดเวลาและความยุ่งยากในการสลับไปมาระหว่างโปรแกรม
Rhino.Inside.Revit ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Rhino และ Grasshopper ได้ภายในพื้นที่ทำงานของ Revit โดยไม่มีข้อจำกัด ทำให้สามารถผสานงานระหว่างโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสะดวกสบาย ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบโครงการ ผู้ใช้สามารถนำเข้าและแก้ไขโมเดล 3 มิติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความซับซ้อนในการสลับไปมาระหว่างโปรแกรม ทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การสร้างแบบที่ออกแบบด้วยเครื่องมืออิสระใน Rhino.Inside.Revit ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ Rhino เพื่อสร้างแบบที่ซับซ้อนโดยใช้เครื่องมือ Freeform และนำมาใช้ในโครงการของคุณใน Revit
คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมและดาวโหลดได้จาก Rhino.Inside.Revit v1.0